- กฏการตั้งชื่อตัวแปร
- ต้องขึ้นต้นด้วย $ (dollar sign) เสมอ
Example.
$val - สามารถใช้ได้ทั้งตัวเลขและตัวอักษร และใช้ _(underscores) ได้
Example.
$_val - ตัวอักษรแรกหลัง $ ห้ามขึ้นต้นด้วยตัวเลข
- การใช้ตัวพิมพ์เล็ก ตัวพิมพ์ใหญ่จะไม่เหมือนกัน
Example.
$Val จะถือว่าเป็นคนละตัวแปรกับ $val เพราะฉะนั้นระวังให้ดีหากเอาตัวแปรชื่อเดียวกันแต่ตัวพิมพ์เล็ก ตัวพิมพ์ใหญ่ ต่างกันจะทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นได้ - ไม่ควรตั้งชื่อตัวแปรซ้ำกับฟังก์มาตรฐาน (build-in function) เพราะ PHP จะไม่สนใจชื่อที่ตั้งใหม่แต่จะทำงานตามฟังก์ชั้นมาตรฐาน
- การกำหนดค่าให้ตัวแปร
กำหนดค่าให้ตัวแปรได้โดยใช้ Assignment Operator คือเครื่องหมาย = (เท่ากับ)
Example.
$val = 0;
$val1 = $val2;
จากตัวอย่างตัวแปรสามารถรับค่าได้ทั้งที่เป็นตัวเลข ตัวอักษร และตัวแปร
- การแสดงค่าตัวแปร
<? $val = 10 echo 'ตัวแปรมีค่า '; echo $val; ?> |
- บรรทัดที่ 2 เป็นการกำหนดค่าให้ตัวแปร $val มีค่าเป็น 10
- บรรทัดที่ 3 เป็นการแสดงข้อความ "ตัวแปรมีค่า " ออกทางหน้า web
- บรรทัดที่ 4 แสดงค่าของตัวแปร $val ออกทางหน้า web แสดงผลดัง output ด้านล่าง
Output :
ตัวแปรมีค่า 10 |
- ชนิดของตัวแปร (variable types)
- Integer คือตัวเลขจำนวนเต็ม
Example 1, 2, 3, 777 - Double คือตัวเลขจำนวนจริง
Example 1.00, 1.25, 55.9843434 - String คือตัวอักษร แต่ต้องอยู่ระหว่างเครื่องหมาย double quotes ( " ) หรือ single quotes ( ' )
Example "str" , 'abc def g' - Array คือชุดของข้อมูลที่เป็นชนิดเดียวกัน (ตัวนี้ Advance นิดนึง จะมาอธิบายเพิ่มในภายหลังอย่างละเอียด)
- Object คือการกำหนดให้ตัวแปรนั้นเก็ฐคุณสมบัติของ object ไว้ โดยใช้ชื่อคลาสเป็นตัวกำหนด (ตัวนี้ก็ Advance หน่อยนะ จะมาอธิบายเพิ่มในภายหลังอย่างละเอียดเช่นกัน)
- Type strength
ชนิดของตัวแปรภาษา PHP สามารถกำหนดได้โดยไม่ต้องประกาศชนิดตัวแปร และเมื่อกำหนดค่าใหม่ที่มีค่าชนิดแตกต่างจากชนิดเดิม ชนิดตัวแปรนั้นจะถูกเปลี่ยนไปตามชนิดตัวแปรที่กำหนดใหม่ให้เอง
- การกำหนดชนิดให้ตัวแปร
กำหนดชนิดตัวแปรได้โดยใส่ชนิดตัวแปรไว้ใน วงเล็บ หน้าตัวแปร ขณะที่กำหนดค่าให้ตัวแปรนั้นCode :
<? $a = 10.1; $b = 10.2; $sum = $a + $b; echo $sum.'<br>'; $a = (integer)$a; $b = (integer)$b; $sum = $a + $b; echo $sum.'<br>'; ?> |
20.3 20 |
จะเห็นว่าครั้งแรกเราใส่ค่าให้ $a และ $b เป็นค่าชนิดที่เป็น Double การรวมค่าออกมาจึงได้ค่าจำนวนจริง แต่หลังจากที่เรากำหนดชนิดให้ $a และ $b ใหม่เป็น Integer แล้วรวมค่า ผลที่ออกมาได้ค่ามาเป็นจำนวนเต็ม